DECR Logo
DECR Logo
Visit Us

Decoraer Media House Co., Ltd. 37 Thungsetthi Yak 37, Bangna-Trad Rd. Dokmai, Pravate, Bangkok, Thailand, 10250

Contact Us

Interested in working with us? Tel: +66 86-358-9089 Email: support@decoraer.com

Hero Background
หน้าแรก/บทความ/ออกแบบ Dark Theme ให้ใช้งานง่าย ถนอมสายตา และดูมืออาชีพ

ออกแบบ Dark Theme ให้ใช้งานง่าย ถนอมสายตา และดูมืออาชีพ

pattarapol@decorear.com
เขียนโดยpattarapol@decorear.com
เผยแพร่เมื่อกรกฎาคม 10, 2025
ออกแบบ Dark Theme ให้ใช้งานง่าย ถนอมสายตา และดูมืออาชีพ

ในยุคที่ผู้ใช้งานใช้เวลาหน้าจอมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหรือในที่แสงน้อย “Dark Theme” หรือ “โหมดมืด” จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในการออกแบบ UI เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกสบายตา ลดความเมื่อยล้า และเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น

แต่การออกแบบ Dark Theme ที่ดี ไม่ใช่แค่เปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีดำเท่านั้น ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องใส่ใจเพื่อให้ดีไซน์ดูดี มีระดับ และใช้งานง่ายจริง ๆ

 

Dark Theme คืออะไร?

Dark Theme คือรูปแบบการออกแบบ User Interface ที่เน้นการใช้พื้นหลังสีเข้ม เช่น เทาเข้มหรือดำ ร่วมกับข้อความหรือองค์ประกอบสีอ่อน เพื่อสร้างความแตกต่าง (Contrast) ที่พอดี อ่านง่าย และไม่ทำให้แสบตาในที่มืด

นอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีข้อดีเพิ่มเติม เช่น:

  • ถนอมสายตาในที่แสงน้อย
  • ลดการใช้พลังงาน (โดยเฉพาะในหน้าจอ OLED)
  • เพิ่มความรู้สึกหรูหรา ทันสมัย และล้ำเทคโนโลยี

 

หลักการออกแบบ Dark Theme ให้ใช้งานง่ายและสบายตา

1. ใช้สีพื้นหลังเทาเข้ม แทนสีดำสนิท

แม้หลายคนจะคิดว่า Dark Theme ต้องใช้สีดำ (#000000) เป็นหลัก แต่การใช้สีดำสนิทอาจทำให้ Contrast กับข้อความสูงเกินไปจนแสบตา ทางที่ดีควรใช้สีเทาเข้ม เช่น:

  • #121212 หรือ #1E1E1E เป็นพื้นหลังหลัก
  • ลดความแข็งของภาพ และทำให้ UI ดูนุ่มนวลมากขึ้น

การใช้สีเทาเข้มยังช่วยให้สามารถแยกองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ชัดเจนกว่าพื้นดำล้วน

 

2. ปรับ Contrast ให้เหมาะสม ไม่สว่างเกินไป

ใน Dark Theme สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความแตกต่างระหว่างข้อความและพื้นหลังให้เพียงพอ เพื่อให้อ่านง่าย แต่ไม่จ้าจนเกินไป

  • หลีกเลี่ยงการใช้ สีขาวสนิท (#FFFFFF) กับพื้นหลังเข้ม เพราะทำให้แสบตา
  • ใช้ สีเทาขาว เช่น #E0E0E0, #CCCCCC สำหรับข้อความหลัก
  • ข้อความรอง อาจใช้สีเทาอ่อนกว่าเล็กน้อย เช่น #999999 เพื่อช่วยแบ่งลำดับความสำคัญของเนื้อหา

การเลือกค่าสีแบบนี้ช่วยให้ข้อความยังคงอ่านง่าย แต่ไม่ล้าเมื่อต้องจ้องเป็นเวลานาน

 

 3. สร้างมิติด้วย Layer และ Shadow

Dark Theme ที่ดูดีมักมีการจัด Layer ให้ชัดเจน สร้างความลึกโดยไม่พึ่งเส้นขอบที่แข็งจนเกินไป:

  • พื้นหลังซ้อนชั้น: ใช้พื้นหลังหลายระดับ เช่น การ์ด หรือ Modal มีพื้นหลังเข้มกว่า หรืออ่อนกว่าพื้นหลัก
  • Glow Effect / เงาโปร่งแสง: เพิ่มความนุ่มนวล เช่น เงาสีม่วงอ่อนหรือฟ้าสว่าง ทำให้ UI ดูล้ำและทันสมัย
  • หลีกเลี่ยงการใช้เส้นขอบแข็ง: เปลี่ยนเป็นการใช้แสงและเงาเพื่อแยกองค์ประกอบแทน

 

เคล็ดลับเสริมการออกแบบ Dark Theme ที่ดี

1. เลือกใช้สีแบรนด์อย่างพอดี

การใส่สีแบรนด์ในปุ่มหรือไอคอนควรปรับให้เข้ากับโหมดมืด เช่น เปลี่ยนโทนสีให้อ่อนลง หรือเพิ่มความโปร่งใส เพื่อไม่ให้ขัดกับพื้นหลัง

2. ใช้พื้นหลังโปร่งใสในบางกรณี

พื้นหลังที่มีค่าความโปร่งใส (Opacity) เช่น rgba(30,30,30,0.8) ช่วยให้ UI ดูเบา ไม่ทึบจนเกินไป เหมาะกับป๊อปอัปหรือเมนู

3. ให้ผู้ใช้สามารถสลับธีมได้

การมี Dark Theme ควรเป็นตัวเลือก ไม่ใช่ข้อบังคับ ให้ผู้ใช้เลือกเปิด/ปิดได้ตามความสะดวก เพื่อรองรับทุกความต้องการ

ตัวอย่างแอป/เว็บไซต์ที่ใช้ Dark Theme ได้อย่างยอดเยี่ยม

  • YouTube: โหมดกลางคืนช่วยให้ดูวิดีโอได้สบายตาขึ้น โดยยังคงความอ่านง่ายของเมนู
  • Spotify: ใช้สีดำ/เทาเข้มเป็นพื้นหลัง ทำให้ภาพอัลบั้มโดดเด่น และเน้นปุ่มได้ชัด
  • Figma / Adobe XD: เครื่องมือออกแบบที่มี Dark UI เพื่อช่วยให้ใช้งานต่อเนื่องได้โดยไม่ล้า

 

Dark Theme ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้งานง่ายด้วย

การออกแบบ Dark Theme ที่ดีต้องใส่ใจทั้งด้านสุนทรียภาพและประสบการณ์ใช้งาน ผู้ใช้ควรรู้สึกสบายตา อ่านง่าย และเข้าใจการทำงานของแต่ละองค์ประกอบได้ทันที

อย่าลืม:

  • ใช้สีเทาเข้มแทนดำสนิท
  • ปรับสีข้อความให้ไม่ขาวจัดจนจ้าเกินไป
  • ใช้ Layer, Shadow และความโปร่งใสเพื่อสร้างมิติ

เมื่อคุณออกแบบอย่างเข้าใจ ผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียด และรู้สึกสบายตาแม้ใช้งานเป็นเวลานาน

 

ไอเดียดี ๆ แบบนี้มีอีกเพียบ!
อย่าลืมติดตาม Decorear เพื่อไม่พลาดทุกเทคนิค UX/UI และการออกแบบที่ใช้งานได้จริง พร้อมเสริมประสบการณ์ผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้นในทุกแพลตฟอร์ม

💼Facebook: decorear
📂E-mail: support@decorear.com

Share this post:

บทความน่าสนใจ

บทความทั้งหมด
แนะนำเครื่องมือค้นหา Keyword SEO ที่แม่นยำ สำหรับสาย SEO และการตลาดออนไลน์
ตุลาคม 27, 20251 min read
แนะนำเครื่องมือค้นหา Keyword SEO ที่แม่นยำ สำหรับสาย SEO และการตลาดออนไลน์

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดของการทำ SEO และโฆษณาออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ คือ “การเลือก Keyword ที่เหมาะสม” เพราะคีย์เวิร์ดคือสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายใช้ในการค้นหาข้อมูล สินค้า หรือบริการผ่าน Google หากธุรกิจสามารถเลือกคีย์เวิร์ดได้ตรงจุด ก็จะสามารถเพิ่มโอกาสในการปรากฏในผลการค้นหา (Search Result) และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องมือค้นหา Keyword ที่ได้รับความนิยมและมีความแม่นยำสูง พร้อมคำแนะนำว่าเหมาะกับใคร และควรเลือกใช้อย่างไร   Keyword SEO คืออะไร? Keyword SEO คือ คำหรือวลีที่ผู้ใช้พิมพ์ลงในเครื่องมือค้นหา (Search Engine) เช่น Google เพื่อค้นหาข้อมูลหรือคำตอบในสิ่งที่ต้องการ หากเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดนั้น และมีคุณภาพดีพอ ก็จะมีโอกาสปรากฏในหน้าแรกของผลการค้นหา   แนะนำเครื่องมือค้นหา Keyword ที่แม่นยำ 1. Google Keyword Planner เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการวางแผนโฆษณา Google Ads แต่ยังสามารถใช้ในการวางกลยุทธ์ SEO ได้เช่นกัน เพราะมีข้อมูลแนวโน้มการค้นหา และปริมาณการค้นหาต่อเดือนที่เชื่อถือได้ […]

บทความ
4 เหตุผล ทำไมธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์ และทำ SEO ควบคู่กัน
กันยายน 21, 20251 min read
4 เหตุผล ทำไมธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์ และทำ SEO ควบคู่กัน

ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล การพึ่งพาแค่โซเชียลมีเดียหรือการตลาดแบบออฟไลน์อาจไม่เพียงพออีกต่อไป การมี “เว็บไซต์” สำหรับธุรกิจ และการทำ “SEO (Search Engine Optimization)” ควบคู่กันกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงลูกค้าได้แม่นยำมากขึ้น   SEO คืออะไร? SEO (Search Engine Optimization) คือกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีโอกาสติดอันดับต้น ๆ บนหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา เช่น Google โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณา (เรียกว่า Organic Search) เป้าหมายของ SEO คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณ “ค้นหาเจอได้ง่าย” เมื่อมีผู้เสิร์ชคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ โดยต่อไปนี้คือ 4 เหตุผลสำคัญที่เจ้าของธุรกิจควรลงทุนทั้งเว็บไซต์และ SEO พร้อมกัน เพื่อให้การตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพสูงสุด   1. สร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นแหล่งข้อมูลทางการของแบรนด์ เว็บไซต์ถือเป็น “หน้าร้านออนไลน์” ที่แสดงความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือของธุรกิจได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าต้องการข้อมูลเชิงลึก เช่น รายละเอียดสินค้า บริการ หรือช่องทางติดต่อ เว็บไซต์จะทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง […]

บทความ
การออกแบบ Navigation ที่เหมาะสมในการออกแบบเว็บไซต์ เลือกเมนูให้ถูกที่ ใช้สะดวกทุกอุปกรณ์
สิงหาคม 3, 20251 min read
การออกแบบ Navigation ที่เหมาะสมในการออกแบบเว็บไซต์ เลือกเมนูให้ถูกที่ ใช้สะดวกทุกอุปกรณ์

ในการออกแบบเว็บไซต์ หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX) คือ Navigation หรือระบบนำทาง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเส้นทางให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจง่าย และไม่รู้สึกสับสน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจรูปแบบของ Navigation ยอดนิยม พร้อมข้อดี-ข้อเสียของแต่ละประเภท และแนวทางเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะของเว็บไซต์ที่คุณกำลังสร้าง   Navigation คืออะไร? Navigation (ระบบนำทาง) คือองค์ประกอบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ “เดินทาง” ไปยังส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก เช่น เมนูหลัก, เมนูย่อย, ปุ่มลิงก์ หรือแถบนำทาง ซึ่งมีหลายรูปแบบตามดีไซน์และฟังก์ชันของเว็บไซต์ การวาง Navigation อย่างถูกต้องมีผลโดยตรงต่อ: ความพึงพอใจของผู้ใช้งาน เวลาในการใช้งานต่อครั้ง (Time on Site) อัตราการคลิก (Click-through Rate) อัตราการออกจากเว็บไซต์ (Bounce Rate)   ประเภทของ Navigation และการใช้งานที่เหมาะสม 1. Top Navigation (เมนูด้านบน) […]

บทความ

ให้เราช่วยคุณ ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์
ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

เราพร้อมให้คำปรึกษา
© 2025 Decorear Media House. All rights reserved.